
เหล้ารัม นั้นเป็นเครื่องดื่มที่หากใครเป็นสายดื่ม Cocktail ก็น่าจะรู้จักเหล้าชนิดนี้ เพราะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำ Cocktail หลายสูตรด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีเรื่องเล่าอันแสนยาวนาน วันนี้ผมจะพาคุณมาสำรวจถึงประวัติของเครื่องดื่มชนิดนี้ รวมถึงถิ่นกำเนิดและเรื่องราวต่าง ๆ นานา กว่าจะมาเป็นรัมในปัจจุบัน
แต่เดิมแล้วเครื่องดื่มชนิดนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ย้อนไปในแถบทะเลแคริบเบียน กากน้ำตาลซึ่งเป็นผลผลิตส่วนเกินจากการทำไร่อ้อย และไม่ได้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เมื่อเป็นเช่นนั้นชาวอาณานิคมที่อยู่ในหมู่เกาะแถบนั้นจึงได้นำสิ่งไร้มูลค่านี้มากลั่นเป็นเครื่องดื่ม ชาวอาณานิคมนี้เป็นชนชั้นแรงงานที่มาจากอังกฤษ หลังจากได้ทำการกลั่นจากน้ำตาลกับวัตถุดิบอื่น ๆ ไม่นานเหล้าชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวอาณานิคมเป็นอย่างมาก รัมยอดนิยมในตอนนั้นมีชื่อว่า Kill-Devil ซึ่งนับเป็นรัม ที่มีรสชาติแย่และไม่มีความอร่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
คำว่า “Rum” แท้ที่จริงแล้วมีรากศัพท์มาจากคำว่า Rumbullion ซึ่งหมายถึงความอลเวงวุ่นวาย ซึ่งมักเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการดื่มกินเหล้าประเภทนี้ นอกเหนือจากเป็นเครื่องดื่มแล้ว ยังถูกใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าได้อีกด้วย
วิธีการดื่มเหล้าชนิดนี้ของชาวอาณานิคมในยุคก่อน คือการนำเหล้าชนิดนี้มาผสมกับน้ำให้มีความเจือจาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้รัมที่มีราคาถูกอยู่แล้วถูกลงไปอีก และหลังจากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงสูตรอื่น ๆ นำเหล้าชนิดนี้มาผสมกับวัตถุดิบอื่นเพื่อกินร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการผสมน้ำตาลเพิ่ม หรือการผสมกับผงลูกจันทน์เทศ หรือมะนาว ซึ่งถือว่านี่เองเป็นที่มาของการผสมค็อกเทลแบบต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน

ของดีจากแถบแคริบเบียน
รัมมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด รัมขาว เป็นรัมที่มีสีใส มีทั้งแบบที่ไม่ต้องบ่ม และแบบที่ต้องบ่มไว้ในถังไม้ ส่วนใหญ่ใช้ในการผสมกับ Cocktail ที่ไม่ต้องการให้สีไปรบกวน รัมทอง มีสีเหลืองใส ซึ่งเกิดจากการบ่มไว้ในถังไม้เป็นเวลาประมาณ 3 ปี หรืออาจผสมสี กลิ่น และรสชาติคาราเมล เพื่อที่จะให้เหล้ามีรสชาติดีขึ้น และรัมดำ ซึ่งเกิดจากการบ่มในถังไม้เช่นกัน แต่จะใช้ระยะเวลายาวนานกว่ารัมทอง ประมาณ 7 ปีหรือมากกว่านั้น และผสมกับกลิ่นและสีคาราเมลเหมือนกับรัมทอง ปริมาณดีกรีในรัมจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 40 ดีกรี
ราคาของเครื่องดื่มชนิดนี้มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยนิด ๆ ไปจนถึงหลักพันเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแนะนำและหาซื้อได้ง่ายในบ้านเรามีอยู่ 2 เจ้า คือ
Bacardi
อย่างเช่น ตัว Bacardi 8 Year คือรัมดำที่ใช้เวลาบ่มถึง 8 ปี ขนาด 1 ลิตร แอลกอฮอล์อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ ในราคา 1250 บาท
Bacardi White Rum
เป็นรัมขาวขนาด 700 ml ปริมาณแอลกอฮอล์ 37.5 เปอร์เซ็นต์ ราคา 750 บาท
อีกเจ้าหนึ่งเป็นรัมทองของไทยเรานี่เอง ชื่อว่า
Phraya กับตัว Phraya Elements Rum
ขวด 700 ml แอลกอฮอล์ 40 เปอร์เซ็นต์ ในราคา 1000 บาท

เหล้ารัม เหล้าที่น่าหามาลอง
โดยสรุปแล้วรัมเป็นเหล้าที่นิยมนำมาผสมเป็น Cocktail ต่าง ๆ และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน บางคนก็นิยมที่จะกินกันเพียว ๆ แต่ที่เราคุ้นชินมากกว่าคือการนำมาผสม ถึงอย่างนั้นเครื่องดื่มชนิดนี้ก็น่าหามาลองกินเหมือนกัน ใครอยากลองกินก็หามาลองได้ กับเหล้ารัม
เครดิตภาพ
https://www.townandcountrymag.com/
บทความที่อาจสนใจ เหล้าปั่น สีสันสดใส กับรสชาติที่ลงตัว